50 เทคนิคทำ SEO ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน ใครรู้ก่อนทำก่อนได้เปรียบ

เทคนิคทำ seo

หากคุณอ่านและทำตาม เทคนิคทำ SEO ชุดนี้ ผมการันตี 100% ว่าเว็บไซต์ของคุณจะติดอันดับหน้าแรก Google ได้อย่างแน่นอน

 SEO Tips & Tricks ในบทความนี้มีทั้งสิ่งที่เราควรทำ และสิ่งที่เราไม่ควรทำ รวมถึงองค์ประกอบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำ SEO ทั้งหมดเท่าที่ผมพอจะรู้ในตอนนี้ มีอะไรบ้างมาดูกันเลย

ปล. เทคนิค SEO ต่างๆ เหล่านี้ผมรวบรวมจากประสบการณ์ การสังเกต การอ่าน และการทดลองทำบนเว็บของผมเองเท่านั้น ไม่ได้เป็นสิ่งที่มาจาก Google Webmaster Central Blog โดยตรง

Google Webmaster Central Blog คือ แหล่งเรียน SEO แบบเป็นทางการจาก Google โดยตรง อยากรู้ว่า Google ทำงานอย่างไร? อะไรที่เขาชอบ อะไรที่ Google ไม่ชอบ ที่ Google Webmaster Central Blog ทีมงาน Google เขาอธิบายไว้หมดแล้วนั้นเอง

50  SEO Tips & Trick รวมเทคนิคทำ SEO

เนื่องจากบทความนี้เนื้อหาค่อนข้างยาว ผมแนะนำให้คุณ Bookmark บทความนี้เก็บไว้อ่านทบทวนย้อนหลังก่อนครับ

bookmark

Highlight เทคนิค SEO สำคัญๆ

ประหยัดเวลาเรียนรู้ สนใจเรียน SEO รอบสอนสด คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย

รับสอน seo

1. ที่ Title กับ Meta Description ไม่ควรวางตำแหน่ง Keyword ตรงกัน

seo title

Google เขาฉลาดอย่าทำเว็บให้เขารู้ว่าเราอยากติดหน้าแรก หากเขารู้ว่าเราอยากติดหน้าแรก เว็บเราจะไม่ได้ติดหน้าแรกนั้นเอง

Google เขาต้องบีบให้คนที่ไม่ค่อยมีความรู้ แต่มีเงิน ลงโฆษณากับเขา การวาง Keyword ตำแหน่งตรงกัน บางที่อาจดูเป็น Spam ในสายตา Google ได้ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อการทำ SEO

2. ห้ามเขียน Title กับ Meta Description ด้วยคำที่ซ้ำกันทั้งประโยค

การทํา seo wordpress

ใครขี้เกียจจะถูก Google บีบให้ซื้อโฆษณา Google ให้รางวัลกับคนขยันเสมอ ดังนั้นหากเราอยากทำเว็บให้ติดหน้าแรก Google เราต้องทำให้เขา มองว่าเราเป็นคนขยันนะ

3. ไม่ควรใช้ _ (under score หรือ ขีดล่าง) ในการตั้งชื่อรูปภาพ รวมถึงใช้เขียนที่ URL

4. รูปภาพที่เราจะนำมาอับโหลดขึ้นเว็บ ควรตั้งชื่อรูปภาพเป็นภาษาอังกฤษ เท่านั้น และควรตั้งชื่อเป็นคำภาษาอังกฤษที่สื่อความหมายด้วย

image seo

เหตุผลก็คือ หากเราตั้งชื่อรูปภาพเป็นภาษาไทย หลายๆ ครั้งพวกเรามักตั้งชื่อรูปภาพเป็นคำ keyword แต่พอเราเอารูปขึ้นบนเว็บ เราก็ต้องใส่ alt text เป็นคำภาษาไทยนั้นอีกรอบ ซึ่งตรงนี้หลายๆ คนมักทำพลาด คือ เมื่อคำบนรูปกับ alt text เป็นคำเดียวกัน จะส่งผลให้เว็บเรามี keyword ซ้ำกันมากเกินไปนั้นเอง

5. ย่อไฟล์รูปให้เล็กที่สุดเท่าที่จะเล็กได้ ผมแนะนำรูปที่ใช้ประกอบบทความอย่าใช้ไฟล์ใหญ่เกิน 100kb รวมถึงขนาดกว้างxยาวด้วย อย่าใช้รูปภาพที่มีขนาดใหญ่เกิน Dimension  ที่เราออกแบบ

optimize-images

ดูวิธีวัด Dimension จากบทความนี้: การทำ SEO รูปภาพ อย่างไรให้ถูกใจ Google

6. ลิงค์บนเว็บที่ส่งออกไปเว็บคนอื่น (External Link) ต้องทำเป็น open new tab เสมอ แต่ลิงค์ภายในเว็บตัวเอง (Internal link) ไม่ต้องทำ open new tab

7. การแสดงผลบนมือถือ ตำแหน่งบนสุดที่เราวาง banner ไม่ควรทำเป็น สไลด์ ควรวางเป็นรูปภาพชิ้นเดียวพอ

เทคนิคทำ seo

8. เลือกโฮสที่ดี การทำเว็บและทำ SEO ของเราจะง่ายขึ้นครับ ความเร็วของการเปิดเว็บขึ้นอยู่กับโฮสที่เราเลือกใช้ด้วย โฮสที่ผมแนะนำสำหรับการทำเว็บด้วย WordPress มีดังนี้

1) สำหรับผู้เริ่มต้นและงบน้อย เริ่มต้นปีละ 1500 บาท แต่คุณภาพเกินราคา ผมแนะนำเจ้านี้ครับ

ลองดูตัวอย่าง 3 เว็บนี้นะ เขาใช้โฮสอะตอม ถ้าคุณอยากทำเว็บให้เปิดเร็วๆ แบบเว็บเหล่านี้ เลือกใช้โฮสอะตอมได้เลยครับ (ลองเข้าไปคลิกเว็บเหล่านี้เล่นดูนะ)

ชุดออกกำลังกายผู้หญิง
อินเวอร์เตอร์

2) ถ้าคุณต้องการความสเถียรเว็บไม่ล่ม และสามารถจ่ายค่าเช่าโฮสปีละ 6000-8000 บาทไหว ผมแนะนำ 2 เจ้านี้ครับ

siteground

Siteground

Cloudways

ปล. เว็บผมเอง padveewebschool.com ก็ใช้โฮส siteground อยู่ครับ

9. ไม่ต้องใช้พวกปลั๊กอิน Security ทั้งหลายเช่น Wordfence หรือ iThemes Security บางครั้งเราไปตั้งค่าผิดทำให้ Google ไม่ index หรือบางทีไปตีกันกับปลั๊กอินตัวอื่น รวมทั้งพวกปลั๊กอิน Security ทำให้เว็บเราเปิดช้าอีกด้วย

ถ้าต้องการดูแลเว็บให้ปลอดภัยให้ใช้ปลั๊กอิน Google Captcha แทนครับ รวมถึงให้ทำตามคำแนะนำด้านความปลอดภัยจากบทความนี้ลองเข้าไปอ่านดูนะ ดูแลเว็บไซต์ WordPress อย่างไรให้ปลอดภัย ไม่ให้ถูกแฮค หรือติดไวรัส

เรียน SEO ออนไลน์ฟรี 4 บทเรียน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดของการทำ SEO 

คลิกเข้าเรียนที่นี่

10. ปรับความเร็วด้วยการ mini file, ทำ cache, ทำ Lazy load ผมแนะนำให้ใช้ปลั๊กอิน Wp Rocket ครับ ใช้ตัวเดียวอยู่หมัด มีครบทุกฟังชั่นเกี่ยวกับการทำเว็บให้เร็วขึ้น

ดูวิธีการตั้งค่าปลั๊กอินที่โพสนี้ : Wp Rocket tutorial

11. หากหน้าเว็บคุณมีการนำคลิปจาก YouTube มาวาง ห้ามทำให้วิดีโอเล่นอัตโนมัติเด็ดขาด (Auto play) เพราะเว็บที่ดีต้องไม่รบกวนการเข้าชมของ USER

12. ห้ามทำให้ popup โฆษณา แสดงทันทีหลังจากเปิดหน้าเว็บ Google ไม่ชอบเว็บที่มีโฆษณากวนใจลูกค้าเยอะเกินไป หากคุณจำเป็นต้องมี popup โฆษณา ให้ตั้งเวลาเอาสัก 30 วินาทีขึ้นไป แล้วค่อยแสดง popup

popup-banner

13. 1 บทความควรมีตัวอักษรยืนพื้นสัก 1000 คำ นับจำนวนคำจากอะไร 1000 คำในที่นี้คือวัดจากโปรแกรม MS Word นั้นเอง

14. ใน 1 หน้าเว็บของเรา จะหน้าประเภท page หรือ Post เราจะสามารถวางตัวอักษรที่เป็น Heading 1 (H1) ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นเอง

15. ลดความสำคัญของหัวข้อเรื่องที่ไม่สำคัญ ด้วยการใช้ Heading 3 (H3) ลงมา หัวข้อเนื้อหาที่ไม่สำคัญอย่าใช้เป็น H1 กับ H2 เด็ดขาด

h1-h6

ในการเขียนบทความ เราสามารถเขียนหัวข้อ (heading) ได้ 6 ระดับ Google แยกความสำคัญของ Keyword ผ่าน Heading Tag ของตัวอักษร ประเด็นสำคัญที่สุด (focus keyword) ของบทความ เราต้องเขียนตัวอักษรโดยเลือก เขียนเป็น H1 กับ H2

ทำ seo

16. อย่าปล่อยให้ Footer เสียของ

footer seo

เพราะส่วนของ Footer นั้น จะแสดงไปกับทุกหน้าบนเว็บเพจของเรา เราควรออกแบบให้เกิดประโยชน์กับการทำ SEO ด้วย ไม่ใช่แค่มีไว้เท่ๆ

เทคนิคง่ายๆ ให้มองว่าในธุรกิจของเรา เราอยากให้คำไหนติดหน้าแรก Google มากที่สุด ให้เอาคำนั้นมาเขียนไว้ที่​ Footer แบบเป็น Link text ให้มันกดเปิดต่อได้

ออกแบบ Link text นั้น ให้มันดูเด่น ดูน่ากดกว่าตำแหน่ง อื่นๆ บน Footer ตัวลิงค์ไม่จำเป็นต้องเขียนเป็น Keyword ห้วนๆ เขียนเป็นประโยคธรรมชาติ ก็ได้ แต่เขียนให้มันน่ากดเข้าไปดู

และอย่าให้มี Link text เป็นตัวเลือกมากเกินไป เพราะหากมีเยอะมันจะไม่มีคำที่เป็นโฟกัส สุดท้ายมันจะไม่มีคนกดลิงค์นั้น ตามที่เราวางแผนไว้

เพราะการทำ SEO นั้น เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ เราต้องทำทุกวิธีทางให้คนมาเจอ หน้าที่เป็น landing page

หลักของเราให้ได้ การออกแบบ Footer ให้น่าสนใจจึงเป็นเทคนิคเล็กๆ ที่ช่วยเพิ่ม Traffic เข้ามาที่หน้าหลักของเราได้นั้นเอง

เมื่อหน้าหลักของเรา มีคนเข้ามาดู เข้ามาอ่าน เข้ามาคลิกมากพอ มันจะเป็นพลังให้ Keyword ของหน้านั้นติดหน้าแรก Google ได้ครับ

17. อย่าใช้ตัวอักษรเล็กเกินไป

ขนาดตัวอักษร

แค่ขยับตัวอักษรให้ใหญ่ขึ้นนิดนึงจะช่วยให้คนอ่านบทความเราได้นานขึ้น ตัวอักษรใหญ่ช่วยให้ user scrolling mouse หรือเลื่อนหน้าจอมือถือช้าลงได้

และเว็บที่ดีต้องห้ามให้ผู้เข้าชมเว็บเรามี action ซูมหน้าจอมือถือเราเข้า-ออกด้วย ดังนั้นตัวอักษรที่ใหญ่ขึ้น จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ครับ

ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะต้องปรับฟอนต์ให้ใหญ่แค่ไหน คำแนะนำง่ายๆ คือ อย่าทำให้ตัวอักษรเล็กกว่าตัวอักษรบนเว็บของผมแค่นั้นครับ

18. เทคนิคลด Bounce Rate เพิ่ม Time on Site กระตุ้น Conversion

ด้วย Human touch ผมเคยอธิบายเรื่องนี้ไว้บน Facebook แล้ว ลองเข้าไปอ่านดูกันนะ

19. ปรับ SEO On-page สำหรับเว็บร้านค้า ทำที่หน้า Category เป็นหลัก ดูภาพประกอบนะว่าหน้าตามันเป็นอย่างไร

ทำ SEO WooCommerce

ดูวิธีการปรับแต่งหน้าหมวดหมู่สินค้าได้ที่ : On-page SEO เว็บขายของ ปรับแต่งอย่างไรถึงจะสู้กับ Lazada ได้

20. หน้าไหนที่คุณเขียนบทความเกิน 1000 คำ คุณต้องมีสารบัญ

สารบัญ seo

เหตุผลก็คือ เมื่อต่างคนต่างเขียนบทความขนาดยาว ทำให้เกิดปัญหา คือ สิ่งที่เขียนนั้นมีข้อมูลยาวเกินไป user เลือกอ่านข้อมูลไม่ถูก ไม่รู้จะอ่านอะไรก่อนหลังดี และบางทีอาจทำให้เขา เข้าไม่ถึงข้อมูลที่เขาอยากรู้ ซึ่งการสร้างสารบัญจึงช่วยแก้ปัญหานี้ได้นั้นเอง

สำหรับบทความที่มีขนาดยาว การสร้างสารบัญเข้าไป จะช่วยให้ผู้อ่าน ได้เห็นประเด็นสำคัญ และเข้าถึงข้อมูลของสิ่งที่เราเขียนนั้นได้ง่ายขึ้น ทำให้ส่งผลดีต่อการทำ SEO

ดูวิธีการสร้างสารบัญที่นี่: วิธีสร้างสารบัญ บน WordPress

21. การทำ external link หรือ internal link ที่ดี ต้องทำให้มันน่ากดด้วย ดังนั้น สี ของ link จึงสำคัญมาก ควรทำให้มันเด่นกว่าสีตัวอักษรของเนื้อหา รวมทั้งควรมีคำกระตุ้นให้เขาอยากรู้ อยากเห็น อยากกดลิงค์ของเราด้วย

ลิงค์ seo

เช่น คุณอาจจะเขียนคำว่า อ่านเพิ่มเติม, แนะนำให้อ่าน, คลิกดูบทความนี้ก่อน, ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ ฯลฯ ใส่คำเหล่านี้ก่อนที่เราจะวางลิงค์นั้นเอง

22. ใช้บทความใหม่ปลุกชีพบทความเก่า ด้วยเสมอ

หมายถึง ทุกครั้งที่คุณเขียนบทความใหม่ อย่าลืมทำ internal link เชื่อมโยงไปหาบทความเก่าๆ ของคุณด้วย

ข้อดีคือ จะช่วยทำให้บทความเก่าๆ นั้นมี Traffic เข้ามาเติมอยู่เสมอ นอกจากนี้ หากบทความเก่านั้น มี keyword ที่ติดอันดับหน้าแรกอยู่แล้ว ก็จะทำให้ keyword นั้นติดอันดับแบบคงทน อันดับหล่นยากอีกด้วย

23. ลดหน้าเสีย ด้วยการทำ No index และ Canonical

การทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพ คือการทำเว็บให้มีข้อเสียน้อยที่สุด ข้อเสียหลักๆ ที่ผมพบเจออยู่บ่อยๆ

คือการที่เว็บของเรา มีจำนวนหน้าที่ไม่ดี มากกว่าจำนวนหน้าที่ดี

หน้าที่ไม่ดี คือ หน้าที่โครงสร้างข้อมูลไม่ถูกต้อง เช่นหน้าที่

  • ไม่มีประเด็นชัดเจน
  • ไม่มี Keyword ที่เด่นชัด
  • หน้าที่ไม่ได้เขียน Title กับ Meta Description
  • หน้าที่ไม่มีข้อมูลสำคัญ หรือหน้าที่มีเนื้อหาสั้นเกินไป
  • หน้าที่ใช้ Focus Keyword ซ้ำกับหน้าหลัก
  • ฯลฯ

แล้วหน้าที่ดี คืออะไร?

หน้าเว็บที่ดี คือ หน้าที่มีโครงสร้างเนื้อหาครบในแบบที่ Google ต้องการ

เบื้องต้น คุณสามารถใช้เครื่องมือนี้ในการตรวจเช็คได้ On-page structure checklist

การลดหน้าเสีย หรือหน้าที่ไม่ดีทำอย่างไร?

เราสามารถลดหน้าเสียได้ 3 วิธี ครับ

1) แก้ไขข้อมูลเนื้อหาให้โครงสร้างครบตามที่เครื่องมือ On-page structure checklist ได้แนะนำไว้

2) ทำ No index หน้าที่ไม่สำคัญ เช่น หน้าเกี่ยวกับเรา, หน้าติดต่อเรา, หน้าวิธีสั่งซื้อสินค้า หน้าข้อตกลงและเงื่อนไข ฯลฯ

การทำ No index คือการบอกให้ Google ไม่ต้องมาเก็บข้อมูลที่หน้าเว็บของเรา ซึ่งเราควรทำ No index ในหน้าที่เราไม่ได้โฟกัสว่าจะต้องติดหน้าแรก Google นั้นเอง ซึ่งการทำ No index เราจำทำผ่านฟังชั่นที่มากับปลั๊กอิน Yoast ดูการทำ No index ที่รูปภาพประกอบนะ

ทำ noindex

3) ทำ Canonical ในหน้า ที่ใช้ Focus Keyword ซ้ำกับหน้าหลัก

การทำ Canonical คือเทคนิคลดจำนวนเนื้อหาที่ซ้ำกันบนเว็บของเรา การทำ Canonical ทำอย่างไร

duplicated content
ทำ canonical

อ่านบทความนี้ประกอบนะ: Canonical Tags คืออะไร มีความสำคัญต่อการทำ SEO อย่างไรบ้าง

เว็บที่ทำ SEO ได้ผลดี ต้องมีความสมดุลของเนื้อหา คือมีจำนวนหน้าที่ดีมากกว่าหน้าที่ไม่ดี หรือหากเป็นไปได้ ต้องไม่มีหน้าที่ไม่ดีเลยได้ยิ่งดี

เราต้องพยายามทำให้ Google มา Index เฉพาะหน้าที่มีคุณภาพดีเท่านั้น

24. ห้ามขึ้นต้นประโยคด้วยคำซ้ำกันเกิน 4 ครั้ง ดูรูปภาพประกอบแล้วจะเข้าใจเอง

spam seo

มันดูไม่เนียน และดูเป็น spam keyword มากเกินไปครับ ควรเขียนเนื้อหาและวาง keyword ให้ดูเป็นธรรมชาติแบบนี้ครับ

บทความ seo

25. ต้องใส่ Alt text ทุกรูป รูปเล็ก รูปน้อย รูปสำคัญ รูปไม่สำคัญ ใส่ alt text ให้หมดครับ

alt-text คือ

26. ใส่ 1 รูป 1 alt text พอครับ ใส่หลายคำหน้าเว็บเราจะเป็น spam โดนลงโทษแน่นอน

27. หากในบทความคุณต้องมีรูปภาพประกอบหลายรูป ห้ามใส่เป็นคำ focus keyword คำเดียวกันทุกรูป ควรกระจายคำ โดยการหยิบคำที่เกี่ยวข้องมาใส่ครับ

คำที่เกี่ยวข้อง

28. เทคนิคการเขียน Long-Form Content

โดยธรรมชาติคนส่วนใหญ่ มีความอดทนน้อยสำหรับการอ่านข้อมูลยาวๆ บทความไหนที่มีขนาดยาวมากๆ

อย่าเขียนเรียบๆ ที่มีแต่ ข้อความ รูปภาพ ข้อความ รูปภาพ เพราะมันน่าเบื่อ ทำให้คนอ่านบทความเราไม่จบ

ลองนำเทคนนิค SEO นี้ไปปรับใช้ดูครับ

29. เว็บคุณติดอันดับหน้าแรกอย่างเดียว ไม่มีความหมาย หากลูกค้าไม่กล้าติดต่อมาคุย หรือโอนเงินเข้ามา

ดังนั้นแก่นสำคัญของการปิดการขาย คือ คุณต้องทำให้ลูกค้า ชอบคุณ เชื่อถือ และไว้ใจคุณ เทคนิคง่ายๆ คือให้เพิ่มภาพบุคคลเข้าไปประกอบบนหน้าเว็บของคุณด้วย จะหน้าคุณเอง หรือทีมงานก็ได้ แต่ออกแบบให้มันดูจริงใจ ดูเป็นมิตร จะทำให้คนติดต่อกลับไปหาคุณได้ง่ายขึ้น

และการมีหน้าคุณประกอบบนเว็บ หากเขาต้องโอนเงินมาให้คุณ เขาจะสบายใจ เพราะคุณมีตัวตนจริงๆ หากว่าคุณไม่ส่งสินค้า หรือเบี้ยวนัด อย่างน้อยก็ยังแจ้งความจับคุณได้นั้นเอง

padvee
รถเข็นไฟฟ้า

คุณเห็นภาพเหล่านี้แล้วรู้สึกอย่างไร ดูน่าเชื่อถือ ดูน่าไว้ใจขึ้นมาเลยมั้ย นี่แหละคือสิ่งที่คุณต้องทำบนเว็บของคุณครับ

30. แต่ละ keyword มีการแสดงผลของหน้าค้นหาแตกต่างกัน เพราะ Google ดูที่เจตนา (intention)

บาง keyword เมื่อคุณค้นหาบน Google จะเจอรูปขึ้นก่อนเป็นอับดับแรก เช่นคำว่า “ไอเดียแต่งสวน”

สอนทำ seo

ดังนั้นหากคุณจะทำ SEO keyword นี้ บทความของคุณ ต้องเน้นที่รูปภาพมากกว่าตัวอักษร เพราะคนค้นหาคำนี้เจตนา เขามาดูรูปภาพ เพื่อเป็นไอเดียในการแต่งส่วนของเขา

บาง keyword เมื่อคุณค้นหาบน Google จะเจอคลิป YouTube ขึ้นก่อน เช่นคำว่า “รีวิว iPhone 11”

วิธีทํา seo 2019

หากคุณค้นหาคำว่า “รีวิว” สิ่งต่างๆ เมื่อไหร่ ก็จะเจอคลิป YouTube ด้านบน แสดงว่า Google เขามองว่าเจตนาของคนหาข้อมูลรีวิว นอกกจากการอ่านบทความแล้ว ควรมีวิดีโอ ประกอบด้วย

ดังนั้นหากคุณต้องการทำ SEO keyword เหล่านี้ จะให้ดี คุณควรมีคลิป YouTube ประกอบให้บทความของคุณด้วยครับ

บาง keyword เมื่อคุณค้นหาบน Google จะเจอแผนที่ ขึ้นก่อน เช่นคำว่า “ร้านเฟอร์นิเจอร์”

ปั่น seo

นั้นหมายความว่า หากมีคนค้นหาคำว่า “ร้าน” ต่างๆ google มองว่า ผู้ใชคนนั้น อาจต้องมีการเดินทางไปยังหน้าร้าน เพื่อดูสินค้า เขาจึงแสดง google map ไว้ส่วนบน

ดังนั้นหากคุณต้องการทำ SEO keyword เหล่านี้ จะให้ดีในหน้า Landing Page ของคุณควรมีการฝังแผนที่ Google map ลงไปด้วยครับ

31. จ้างทำ SEO ราคาถูกๆ ไม่มีจริง

เพราะการทำ SEO นั้นไม่สามารถใช้โปรแกรมใด ๆ ทำแทนได้ หรือแค่ไปซื้อ Backlink มาใส่เว็บเราเยอะๆ ถ้าคุณไปจ้างใครทำ SEO แล้วเขาทำอยู่แค่นี้ แสดงว่าคุณกำลังถูกหลอก สิ่งที่เขากำลังทำให้คุณมันไม่ได้ช่วยให้เว็บคุณดูดีขึ้นเลยในสายตาของ Google

คุณต้องเข้าใจ Model ทำเงินของ Google และ Facebook ก่อน พวกเขามีรายได้จากค่าโฆษณา ดังนั้น หน้าที่ของ Google และ Facebook เขาต้องบีบให้ให้พวกเราซื้อโฆษณา โดยการปรับอัลกอลิทึม ของเว็บที่จะติดหน้าแรกได้ ต้องยากที่สุด คือจะมีแค่เว็บที่มีคุณภาพดีเท่านั้นที่ติดหน้าแรกได้

เพราะหากการทำ SEO มันจ้างกันแบบง่ายๆ ได้ คนก็จะไม่ไปซื้อโฆษณากับ Google เขาก็ต้องเสียรายได้ ดังนั้น Google จึงไม่มีทางยอมแน่ ๆ

In 2018, stuffing your website
with backlinks may hurt
more than help.

คำว่า “more backlinks,
higher ranking”

จึงเป็นแนวคิวที่ใช้การไม่ได้แล้วในยุคนี้

คำแนะนำหากคุณต้องการใช้เงินสำหรับการจ้างทำ SEO การจะจ้างทำ SEO ให้ได้ผลเราต้องจ้างเป็นองค์รวม โดยมี 3 ส่วนหลักๆ

  • จ้างคนทำเว็บ
  • จ้างคนทำกราฟฟิค
  • จ้างคนทำคอนเทนต์ (เขียนบทความให้น่าอ่าน)

คุณต้องไปสร้างทีมงานเก่งๆ มา 3 ส่วนหลักๆ ด้านบน จากนั้นค่อยนัดผมไป training ทีมงานของคุณ หรือจะให้พวกเขาเรียนรู้เรื่อง SEO ด้วยตนเองก็ได้ เพื่อให้การทำงานแต่ละส่วนถูกหลัก SEO

คนทำกราฟฟิคต้องรู้หลักการ SEO จะได้ออกแบบและวางตำแหน่งของรูปภาพถูกต้อง เราจะทำเว็บให้สวยอย่างเดียวยังไม่พอ

คนทำเว็บต้องรู้หลักการออกแบบโครงสร้างเว็บ อะไรที่จำเป็น อะไรที่ไม่จำเป็น อะไรควรทำและไม่ควรทำ เพื่อให้เว็บเป็นมิตรกับ  Google Search Engine มากที่สุด

คนเขียนบทความ ต้องรู้ก่อนว่า Google ชอบบทความประเภทไหน โครงสร้างของบทความต้องจัดเรียงเนื้อหาอย่างไรบ้าง เขียนบทความดี น่าอ่าน อย่างเดียวยังไม่พอ ต้องเขียนให้ดีในสายตาของ Google ด้วยนั้นเอง

ทำเว็บก็เหมือนเราสร้างบ้าน ต้องออกแบบก่อน แต่ไม่ใช้การออกแบบให้สวยตามใจ ต้องสวยในมิติที่ google ชอบด้วย

32. อยากให้หน้าไหนติดอันดับหน้าแรกจงทำหน้านั้นให้เป็น Hero Content

hero content

Hero content คือ หน้าหลักที่เราต้องการให้ติดหน้าแรก ในคำ Keyword ที่เราต้องการมากที่สุด

แน่นอน เราไม่สามารถทำให้เว็บเรา ติดอับ Keyword เดียวกันหลายหน้าได้ (ปล. อาจจะทำได้ถ้า keyword นั้นการแข่งขันไม่สูง)

ดังนั้นเราจึงไม่ควรสร้างเพจ ที่ใช้ Focus Keyword คำเดียวกัน ในหลายๆ หน้า เพราะมันจะก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Content Conflict

Content Conflict คืออะไร? คือ อาการที่ Google bot  งงกับเนื้อหาบนหน้าเว็บของเรา จนทำให้ bot เลือกไม่ถูก ว่าจะเอาหน้าไหนเป็นตัวขึ้นมาแสดง ที่ผลการค้นหา (SERP)  สุดท้าย bot จึงไม่เลือกเลยสักหน้า

หรือไม่ก็ bot เลือกหน้าเว็บเราผิดหน้า แทนที่จะไปเลือกหน้าที่เราทำเป็น sell page กลับไปเลือกหน้าที่ไม่สำคัญแทน อะไรประมาณนี้

หากเราต้องการให้เว็บเราติดหน้าแรกคำว่า “ล้างแอร์บ้าน”

จงสร้างหน้าเพจที่ตั้ง Focus Keyword ว่า “ล้างแอร์บ้าน” ไว้แค่หน้าเดียวพอ ใส่เนื้อหาแบบจัดเต็ม ให้ได้สัก 2000 คำขึ้นไปเลยนะ

จากนั้นให้คุณสร้าง Support Content คือ เขียนบทความที่สนับสนุน หรือเกี่ยวข้องกับคำว่า “ล้างแอร์บ้าน” มาซัก 10 บทความเป็นอย่างน้อย เช่น “วิธีเลือกซื้อแอร์”, “แอร์ประเภทต่าง”, “ขั้นตอนการติดตั้งแอร์”, “วิธีล้างแอร์ด้วยตนเอง”, “รีวิวแอร์ยี้ห้อต่างๆ” เป็นต้น

แต่ให้ทุกบทความ ที่เป็น Support Content มี internal link ส่งไปหน้า Hero Content ด้วยเสมอ

ปล. การทำ internal link ที่ดี เราต้องเขียนคำนั้น เป็น Anchor Text แบบเนียนๆ ให้มันน่าคลิกด้วยนะ

คือมันต้องมีคนคลิกคำๆ นั้นของเราด้วย มันจึงจะได้ผล ดูวิธีการเขียน Anchor Text ที่ดีในบทความนี้ครับ เทคนิคการใช้ Anchor Text

ขอดีของการใช้วิธีการนี้คือ ช่วยดันให้หน้าที่เป็น Hero Content มี Traffic เข้ามาต่อเนื่อง รวมถึงช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บเราในสายตา Google อีกด้วย bot จะวิเคราะห์ว่าเราเป็นมืออาชีพในเรื่องนี้นั้นเอง

ข้อดีอีกอย่าง บางครั้งหน้าที่เป็น Hero content คำ Keyword ที่เราใช้ อาจเป็นคำที่มีการแข่งขันสูง ทำให้ยากต่อการขึ้นมาติดอันดับหน้าแรก แต่เว็บเราจะได้คน organic keyword ที่เป็นคำรอง ที่มาจาก Support Content ช่วยดึง traffic คนเข้าเว็บ อีกทางหนึ่งด้วยนั้นเอง

33. ห้ามใช้ tag ทำ spam keyword

tag
tag wordpress

หน้าที่ของ Tag คือ เอาไว้จัดชุดข้อมูลที่น่าสนใจ เพื่อให้ค้นหาต่อ และไม่จำเป็นต้องเชื่อมโยงกับเนื้อหาหลักของเว็บ ถ้าเราจะใช้ Tag ในการทำ SEO เป้าหมายของ Tag คือ ทำให้คนเปิดหน้าเว็บเราต่อไปเรื่อย ๆ

ดังนั้นการใส่ keyword บน Tag เราจึงไม่ควรใส่เป็นคำ keyword หลักของหน้านั้น เพราะหากเราใช้ tag ซ้ำกับ keyword ที่บทความ แบบนี้เราเรียกว่าการทำ spam keyword นั้นเอง

คำแนะนำ หากคุณจะใช้ tag ห้ามใส่ตรงกับคำ keyword หลักของหน้านั้น แต่ให้ใส่คำที่น่าสนใจอื่นๆ ลงไปแทนครับ และใน 1 บทความอย่าเปิด Tag มากเกินไปด้วย เพราะมันจะผิดธรรมชาติ

สิ่งที่ต้องระวังคือ 1 tag ก็เท่ากับ 1 url ซึ่งมันก็เท่ากับข้อมูล 1 หน้า เมื่อมันเป็นข้อมูล 1 หน้าดังนั้น หากคุณมีการใช้ tag คุณต้องเขียนส่วน seo title และ meta description ให้เรียบร้อยด้วย

แต่ถ้าคุณใช้งาน Tag ไม่เป็น ยังไม่เข้าใจว่ามันเอาไว้ทำอะไร ผมแนะนำว่าไม่ต้องใช้ Tag ไปเลยครับ จะส่งผลดีด้าน SEO มากกว่าที่เราใช้ Tag แต่ใช้ผิดวิธีครับผม

34. เว็บที่ออนไลน์อยู่ แต่ยังสร้างไม่เรียบร้อย อย่าปล่อยให้ Google มา index เว็บเด็ดขาด

เว็บที่ยังทำไม่เสร็จ, เว็บทดสอบ, เว็บจำลอง ที่สร้างบน Subdomain เราต้องทำ Noindex ทั้งเว็บตั้งแต่เริ่มต้นเสมอ โดยให้ไปรับ noindex ที่ส่วนของ setting > reading ติ๊กตามรูปนะ

ทำ no index

จะเอาติ๊กถูกออก เฉพาะบนเว็บที่เป็นโดเมนจริงเท่านั้น

35. เพิ่มจำนวนตัวอักษร โดยการเรียกใช้ excerpt (เกริ่นนำ) บนหน้าที่เราดึง Blog post มาแสดง

คำเกริ่นนำ

เนื่องจาก Google กิน Data เป็นอาหาร ดังนั้นทุกหน้าที่ทำ On-page SEO เราต้องเขียนจำนวนความยาวตัวอักษรขั้นต่ำ 1000 คำ เป็นอย่างน้อย ดังนั้นหากเราหมดมุก หรือไม่รู้จะเขียนอะไรเพิ่มดี

ให้เราใช้เทคนิค ดึงพวก blog post มาแสดงต่อท้ายหน้า page เราได้เลย ทุก blog post ก็จะมี Excerpt ติดมาด้วยทำให้หน้าเว็บเรามีจำนวนตัวอักษรเพิ่มมากขึ้นนั้นเอง

วิธีการตั้งค่า excerpt สำหรับคนที่ใช้ Classic Editor บน WordPress

ให้ไป edit post ที่ต้องการ > คลิก Screen option > ติ๊กเปิดใช้งาน Excerpt

write excerpt

36. ถ้าไม่รู้จะเขียนอะไรต่อ หรือหมดมุก ให้เขียน FAQ ต่อท้ายไปได้เลย

อีกหนึ่งเทคนิคสำหรับการเพิ่มเนื้อหา คือ ให้เขียน คำถามที่พบบ่อย ของธุรกิจเราลงไปต่อท้ายเนื้อหาของหน้านั้นครับ

faq

และเพื่อไม่ให้หน้าเว็บเรารกเกินไป ให้เราออกแบบ FAQ ให้แสดงผลแบบเลือกเปิด-ซ่อน (Accordion) ซึ่งฟังชั่นนี้มีอยู่ในทุก page builder อยู่แล้ว ลองหามาทำดูกันนะ

37. การวาง H1 กับ H2 ห้ามวางชนกัน

การวางหัวข้อ

38. ห้ามทำ Internal link กับ External link บน focus keyword

เป็นเรื่องที่หลายๆ คนเข้าใจผิด คือ มักจจะใส่ลิงค์ลงไปบนคำที่เป็น focus keyword

ในความเข้าใจของ Google ลิงค์ที่ออกไปหน้าอื่น หรือเว็บอื่น คือสิ่งที่มีความสำคัญกว่า หน้าต้นเรื่อง ดังนั้นหากเราทำลิงค์ไปที่ Focus keyword Google จะมองว่า keyword ในหน้านี้ไม่สำคัญ หน้าที่ลิงค์ออกไปสำคัญกว่านั้นเอง

39.ใช้ปลั๊กอินให้น้อยที่สุดในการทำเว็บ

เห็นคนอื่นเขาใช้ปลั๊กอินนี้ เราก็ต้องใช้ด้วย วิธีคิดแบบนี้อาจยังไม่ถูกต้อง หากเรายังไม่รุ้ว่าปลั๊กอินเรานั้นมันใช้งานอย่างไร ใช้ไปเพื่ออะไร เพราะทุกปลั๊กอินที่เราเลือกใช้ ต้อง set ค่าใช้งานปลั๊กอินนั้นๆ ให้ถูกต้องด้วย

WordPress-Plugins 2019

ปลั๊กอินไหน ไม่รู้จัก ใช้ไม่เป็น คือ ไม่ต้องใช้ เป็นวิธีการที่ดีที่สุดของการทำเว็บให้มีประสิทธิภาพ

40. ทุกครั้งที่มีการแก้ไขบทความเก่า ต้องเรียกให้ Google มาจัดทำดัชนี (index) ใหม่ทุกครั้ง

Google มีรอบของการเข้ามาเก็บข้อมูลบนเว็บของเรา ซึ่งแต่ละเว็บจะมีความช้าเร็วในการเข้ามา index ข้อมูลจาก Google ไม่เท่ากัน

ดังนั้นหากเรามีแก้ไขข้อมูล แล้วอยากให้ Google เข้ามาอัพเดทข้อมูลเราไวๆ ให้เราทำการส่ง URL หน้านั้นไปให้ Google จัดทำดัชนีใหม่เสมอ

ตรงจุดนี้เราต้องไปทำที่ Google Search Console ขั้นตอนการทำตามรูปเลยครับ

google index url

Google จะเก็บข้อมูลจากบนลงล่าง หากเว็บคุณเมนูมีลำดับชั้นของข้อมูลเยอะเกิน จะส่งผล Google bot วิ่งมาเก็บข้อมูลด้านล่างได้ช้าลง และบางครั้งส่งผลให้ Bot เข้าไม่ถึงข้อมูลสำคัญของเนื้อหาเรา ทำให้ไม่ส่งผลดีต่อการทำ SEO นั้นเอง

ดังนั้นหากคุณต้องการทำเว็บเผื่อหวังผลด้าน SEO เป็นหลัก จงทำเมนูให้สั้นที่สุด ใส่เฉพาะสิ่งที่เป็นจุดสำคัญพอครับ

41. อย่าทำเมนูให้มีลำดับชั้นมากเกินไป

เมนู SEO

Google จะเก็บข้อมูลจากบนลงล่าง หากเว็บคุณเมนูมีลำดับชั้นของข้อมูลเยอะเกิน จะส่งผล Google bot วิ่งมาเก็บข้อมูลด้านล่างได้ช้าลง และบางครั้งส่งผลให้ Bot เข้าไม่ถึงข้อมูลสำคัญของเนื้อหาเรา ทำให้ไม่ส่งผลดีต่อการทำ SEO นั้นเอง

ดังนั้นหากคุณต้องการทำเว็บเผื่อหวังผลด้าน SEO เป็นหลัก จงทำเมนูให้สั้นที่สุด ใส่เฉพาะสิ่งที่เป็นจุดสำคัญพอครับ

42. วิธีวิเคราะห์ Keyword ของ Lazada , Shopee  ว่า Keyword ไหนเป็นตัวทำเงินของเขา ซึ่งเขาจะเอาจริงใน Keyword นี้ ถ้าเราจะทำ SEO ชนกับเขาใน Keyword เหล่านี้ต้องทำใจสักเล็กน้อยว่าอาจจะสู้ยากสักหน่อย

แต่ถ้า Keyword ของใคร ที่เราดูแล้ว ไม่ผมในสิ่งที่ผมจะแนะนำ แสดงว่า Keyword นั้น ยังไม่ใช้สินค้าทำเงินของเขา แบบนี้ยังมีโอกาสให้เราสู้กับเขาได้นั้นเอง

วิธีวิเคราะห์ Keyword ทำเงินของเว็บใหญ่

ให้สังเกตส่วนหัว และส่วนท้ายของหน้าเว็บนั้น ถ้ามีข้อมูลส่วนบน (Top content) ก่อนแคตตาล็อกสินค้า กับข้อมูลส่วนล่าง (Bottom content) ด้านล่างแคตตาล็อคสินค้า

แสดงว่า Keyword นั้นเว็บใหญ่เขาทำ SEO แบบจัดเต็ม แบบนี้คือสู้ได้ยาก

lazada
SEO เว็บร้านค้า

หากเราเจอส่วนที่เป็น Seller Picks ของ Keyword บนเว็บ Lazada แสดงว่าคำนั้นเขาเอาจริง ทำ SEO แข่งกับเขาอาจจะยากสัก แต่ถ้าหน้านั้นไม่มีส่วนหัวและส่วนท้ายที่เป็น seller Picks แบบนี้ยังพอทำ SEO เอาชนะเขาได้ครับ

ตัวอย่าง Top content และ Bottom Content ของ Shopee

44. ไม่ต้องสนใจไฟเขียว ไฟแดงบน Yoast SEO

yoast-seo-green-light

ถ้าจะมีเคล็ดลับเดียวที่ผมอยากจะบอกคุณเกี่ยวกับการทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพ ก็คือ ไม่จำเป็นต้องทำให้ Yoast เป็นไฟเขียวทั้งหมด

**เนื่องจากปลั๊กอิน Yoast ไม่สามารถตรวจสอบโครงสร้างเนื้อหาบทความที่เป็นภาษาไทยได้ 100% ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องไปโฟกัสที่ สัญลักษณ์ไฟเขียวไฟแดงมากเกินไปครับ

และด้วยข้อจำกัดนี้ของ Yoast ผมจึงได้สร้าง Checklist Tool ขึ้นมาใหม่เพื่อใช้สำหรับตรวจเช็คบทความภาษาไทยโดยเฉพาะ

45. อย่าลืมเช็ค BUG ที่ Yoast ด้วยสำหรับเว็บที่ใช้ Yoast มาเกิน 2 ปีแล้ว แต่ถ้าเว็บคุณพึ่งสร้างใหม่ในปีนี้ จะไม่เจอ BUG ตัวนี้ครับ

yoast bug

อาการของ Bug ตัวนี้คือ มันดันไปตั้งค่า No ตอนเริ่มต้นที่ส่วนของ Media Attachment URL ซึ่งปกติตรงจุดนี้ มันต้องเป็น Yes.

เมื่อ Media Attachment URL ถูกตั้งเป็น No ความหมายแบบบ้านๆ คือ การเปิดให้ Google มา Index พวกรูปภาพมาเป็น Url ร่วมกับ post และ page ของเราด้วย โดยอัตโนมัติ

ปัญหาที่ตามมาเมื่อพวกรูปภาพถูก index เป็น Url ก็เท่ากับว่าเรามีหน้าเว็บเพิ่ม 1 หน้าแต่เป็นหน้าเว็บที่มีคุณภาพต่ำ เพราะมันไม่มีเนื้อหาหรือคอนเทนต์อะไรเลย เพราะมันเป็นแค่รูปภาพนั้นเอง

หากเว็บเรามีหน้าเว็บที่มคุณภาพต่ำมากเกินสัดส่วนที่เหมาะสม Google อาจมองว่าเว็บเราเป็น spam ได้นั้นเอง เมื่อเป็นเช่นนี้อาจฉุดให้อันดับเว็บของเราบน Google ร่วงลงได้

เข้าไปเช็คดูเองนะ ตรงส่วนของ Serch Appearance ของ Yoast ที่แท็บ Media ของใครถูกตั้งค่าเป็น NO แสดงว่าเว็บของคุณเจอปัญหา Bug จาก Yoast เข้าให้แล้ว รีบเปลี่ยนเป็น Yes ครับ

46. การทำ Featured snippets in search (ตัวอย่างข้อมูลที่น่าสนใจในการค้นหา)

snippets seo

วิธีการทำ ให้เขียนในสิ่งที่เป็น คำจำความ (definition) ของสิ่งนั้นๆ

เช่น yoast seo คือ, WordPress คือ, bitcoin คือ, การลงทุน คือ, google analytics คือ ฯลฯ

เขียนให้เป็นย่อหน้าบนๆ ไม่เกินย่อหน้าที่ 2 ของบทความ ใช้ตัวอักษรธรรมดา (paragraph) เขียนให้ได้สัก 2-3 บรรทัด  แต่ต้องเอาคำ keyword  + คือ วางไว้เป็นคำต้นประโยคด้วยนะ

ใส่รูปประกอบด้วย จะวางด้านบนหรือ ด้านล่าง ของย่อหน้าที่เป็นนิยามยังไงก็ได้ แต่ต้องใส่คำ alt text ของรูป เป็นคำ keyword + คือ นั้นด้วย

เนื้อหาทั้งหมดของบทความเรื่องนี้ควรมีไม่ต่ำกว่า 1000 คำบทความที่มีขนาดยาว มักจะมีอันดับดีกว่าบทความขนาดสั้น

ทำตามที่แนะนำไป ก็ไม่ได้การันตี ว่าจะมี Featured snippets in search ของเว็บเราโผล่ขึ้นมานะ เหมือนเดิม เพราะสิ่งที่เรากำลังจะทำไม่ได้มีแค่เราทำคนเดียว แต่ละ keyword คู่แข่งมากน้อยไม่เท่ากัน

47. E-A-T Factor คืออะไร สำคัญกับการทำ SEO อย่างไร

E-A-T factor คือ การสร้างเนื้อหาให้มีคุณภาพ (Quality Content) ในสายตา Google หรือ หมายถึง การทำเว็บให้มีความน่าเชื่อถือ ในอุตสาหกรรมที่ทำอยู่

เว็บไซต์จะมีความน่าเชื่อถือได้ ต้องมีองค์ประกอบ 3 ส่วนหลัก

  • Expertise (ความเชียวชาญ)
    คอนเทนต์เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ หรือคุณสามารถแสดงให้เห็นได้ว่าคุณมีความรู้ในด้านนั้นจริงๆ
  • Authoritativeness (อำนาจ)
    คุณมีความเป็นเจ้าของคอนเทนต์นั้น หรือเป็นศูนย์กลางของความรู้นั้นๆ
  • Trustworthiness (ความน่าเชื่อถือ)
    มีความน่าเชื่อถือ ความสดใหม่ และความเกี่ยวข้อง

สำหรับเทคนิคทำ SEO หัวข้อ 48-50

ผมขอติดไว้ก่อน สัปดาห์หน้า ผมจะกลับมาเขียนเพิ่มครับผม อย่าลืม bookmark บทความนี้เพื่อเก็บไว้อ่านต่อนะครับ

bookmark

ประชาสัมพันธ์

สำหรับท่านใดที่อ่านบทความนี้แล้ว สนใจการทำ SEO บน WordPress แบบจริงจัง ในวันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2564 นี้ ผมได้เปิดคอร์สสอน SEO WordPress แบบกลุ่มเล็กๆ 1 รอบ สอนสดรอบละ 10 คน เพื่อให้ผู้เรียนได้ประโยชน์สูงสุด เรียนรู้และทำตามไปพร้อมๆ กันได้ 

รายละเอียดคอร์สเรียน

SEO WordPress

  • ค่าเรียน 6,500 บาท
  • เรียนวันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2564
  • ระยะเวลาเรียน 6 ชั่วโมง
  • เราเปิดสอน 1 รอบ
    รอบเช้า 10.00 – 16.00 น. (ว่าง)
  • เรียนกลุ่มเล็กรอบละ 10 คนเท่านั้น
  • สถานที่เรียน Seatz Station
  • ปากซอยงามวงศ์วาน 44 ก่อนถึง รพ.วิภาวดี ฝั่งตรงข้าม ม.เกษตรประตูงามวงศ์วาน 3
  • จองที่นั่งเรียนผ่าน Lind ID : padveewebschool ได้เลยครับ

  ทุกคอร์สเรียนรอบสอนสด ได้คอร์สเรียนออนไลน์แถมฟรีครับ  

  ทุกคอร์สเรียนรอบสอนสด  
 ได้คอร์สเรียนออนไลน์แถมฟรีครับ  

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ดูตารางเรียนรอบถัดไป

ตัวอย่างผลงาน
SEO Ranking ของเรา

Logo-SERPmojo
seo พัดวี
ติดหน้าแรก Google

แผนที่สถานที่เรียน (รอบสอนกลุ่ม)

สถานที่เรียน Seatz Station

ปากซอยงามวงศ์วาน 44 ก่อนถึง รพ.วิภาวดี
ฝั่งตรงข้าม ม.เกษตรประตูงามวงศ์วาน 3

seat-station

บรรยากาศคลาสเรียน

3 thoughts on “50 เทคนิคทำ SEO ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน ใครรู้ก่อนทำก่อนได้เปรียบ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *