รีวิว SEO Tools ที่ผมใช้งานอยู่ประจำ พร้อมคำแนะนำการใช้งาน

seo tools

โปรแกรมทำ SEO 2020 ยุคนี้มีอยู่มากมาย ไม่รู้จะเลือกใช้ SEO Tool ตัวไหนดี เครื่องมือ SEO ตัวไหนฟรีแต่ดี ตัวไหนราคาถูก แต่มีคุณภาพ มาดูกันเลย

สารบัญ

SEO Tools คืออะไร

SEO Tools คือ โปรแกรมช่วยทำ SEO บนเว็บไซต์ของคุณให้ง่ายขึ้น เพราะการปรับแต่ง SEO บางจุดอาจต้องอาศัยทักษะด้าน Coding แต่หากคุณไม่ได้เป็นโปรแกรมเมอร์ การเลือกใช้โปรแกรมทำ SEO เหล่านี้ เป็นตัวใช้ทำ SEO จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์นั้นเอง

1. Ubersuggest

เครื่องมือ seo

Ubersuggest คือ เว็บที่ไว้ใช้สำหรับวิเคราะห์คำ Keyword ต่างๆ เพื่อให้เรานำมาใช้เป็นแนวคิวในการผลิตคอนเทนต์ และนำข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับ มาวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ เครื่องมือนี้สร้างโดย Neil Patel กูรู SEO ระดับโลก

เครื่องมือ SEO นี้ ฟรีหรือเสียเงิน

Ubersuggest เป็นโปรแกรมทำ SEO ที่ไม่ฟรีครับ คิดค่าใช้งานเป็นรายเดือน เดือนละประมาณ 500 บาท (ทดลองใช้งานได้ฟรี 7วัน) แต่ถือว่าราคาถูกมากหากเทียบกับ SEO Tool ตัวดังๆ เช่น ahrefs หรือ SEMrush

ubersuggest

ผมแนะนำให้คุณใช้ Ubersuggest ก็เพียงพอแล้วครับ สำหรับการทำ Keyword research เครื่องมือ SEO หลายๆ ตัวราคาแพงเกินไป และโดยมากหากเราซื้อมาใช้ แต่ก็ใช้ได้ไม่เต็มความสามารถของ SEO Tool นั้นๆ เพราะส่วนใหญ่เราจะใช้งานเขาไม่ค่อยเป็นนั้นเอง

Ubersuggest ทำอะไรได้บ้าง

  • เช็ค Volume Keyword (ปริมาณการค้นหา)
  • วิเคราะห์ traffic คนเข้าเว็บ
  • เช็ค traffic และ keyword ที่ละหน้าได้
  • หา Keyword จากเว็บคู่แข่ง
  • ตรวจเช็ค backlink
  • วิเคราะห์ภาพรวมเว็บไซต์ (Site audit)

สำหรับคู่มือการใช้งานผมแนะนำให้คุณอ่านบทความนี้ครับ: Ubersuggest โปรแกรมหา keyword ราคาถูก และดีที่สุดในตอนนี้

ตัวอย่างการใช้งาน

เช็ค Volume Keyword (ปริมาณการค้นหา)

SEO Tools คือ

  • เช็ค Volume Keyword
  • ดู keyword ที่เกี่ยวข้อง
  • ดูเว็บที่ติดอันดับ 1-10 และสถิติคนเข้าเว็บ
  • เช็ค keyword ทำเงิน จาก cpc

วิเคราะห์ traffic คนเข้าเว็บ

อยากรู้ว่าเว็บคู่แข่ง มี Traffic คนเข้าเว็บเดือนละเท่าไหร่โปรแกรมนี้สามารถเอาไว้เช็คได้

เช็คคนเข้าเว็บ

เช็ค traffic และ keyword ที่ละหน้าได้

การทำ SEO

หา Keyword จากเว็บคู่แข่ง

เราสามารถแกะรอย keyword จากเว็บคู่แข่งได้เลย

keyword research

เช็ค backlink เว็บคู่แข่ง

หา backlink

วิเคราะห์ภาพรวมเว็บไซต์ (Site audit)

ตรวจเช็คสุขภาพของเว็บ เช่น หน้าไหนยังไม่ได้เขียน Title หน้าไหนมีเนื้อหาซ้ำกัน เช็คหน้าที่มีลิงค์เสีย เป็นต้น

เช็คคะแนน SEO

มี Extension บน chrome

ubersuggest Chrome extensions

สรุปการใช้งานโปรแกรม Ubersuggest

  • Ubersuggest โปรแกรมหา Keyword ที่คุณจำเป็นต้องลงทุน
  • ถือว่าเป็นโปรแกรมที่มีค่าใช้จ่ายถูกมา เมื่อเทียบกับโปรแกรมอื่น
  • สามารถแอบขโมยไอเดีย keyword จากเว็บคู่แข่งเราได้อีกด้วย ช่วยให้เราประหยัดเวลาในการทำ Keyword research ด้วยนั้นเอง

อ่านต่อ: คู่มือใช้งาน Ubersuggest แบบละเอียด

2. Alexa Traffic Rank

Alexa Traffic Rank

Alexa Traffic Rank คือ เครื่องมือวัดคุณภาพของเว็บไซต์และจัดดับเว็บไซต์ ซึ่งการแสดงอันดับบน Alexa ไม่ใช่การจัดดับอย่างเป็นทางการจาก Google แต่เราสามารถนำข้อมูลจาก Alexa มาใช้วิเคราะห์ภาพรวมของคุณ หรือเว็บคุ่แข่งได้ ว่าดีหรือแย่

เป็นที่รู้กันดีว่าการทำ SEO แต่ละ keyword มีความยากง่ายแตกต่างกัน บางคำสู้ง่าย บางคำสู้ยาก ผมจึงขอเปรียบการทำ SEO เหมือนการชกมวย ซึ่งจะแบ่งเป็นรุ่นต่าง ๆ ตามน้ำหนักตัว

เช่นเดียวกัน หากเราจะทำ SEO แข่งกับใคร เราต้องรู้น้ำหนักตัวของเรา และน้ำหนักตัวเว็บคู่แข่ง ว่าอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันที่จะพอต่อยกันได้มั้ย เหมือนเราจะต่อมวย เราตัวเล็กนิดเดียว จะข้ามรุ่นไปต่อยกับยักษ์ใหญ่รุ่นเฮฟวี่เวท (Heavyweight) ที่หนัก 100 กิโล คงสู้ไม่ได้ คือ คงโดนน็อคตั้งแต่ยกแรกแล้วนั้นเอง

นำหนักตัวเว็บ = อันดับ Ranking ของแต่ละเว็บ

 ตัวอย่างการแสดงอันดับบน Alexa

เช็ค seo เว็บ

อยากทำเว็บให้ติดอันดับหน้าแรก เราควรวางแผนทำให้คะแนนจุดนี้แสดงขึ้นมาให้ได้ก่อน ตัวเลขอันดับ Traffic Rank in TH คือ ค่าน้ำหนักตัว ยิ่งตัวเลขน้อย แสดงว่ามีอันดับที่ดี

SEO Tools นี้ ฟรีหรือเสียเงิน

เครื่องมือนี้หากต้องใช้การแบบเต็มรูปแบบมีค่าใช้จ่าย ซึ่งแพงมาก

seo ราคา

แต่เราไม่จำเป็นต้องใช้ Alexa แบบเสียเงินครับ เราสามารถใช้ฟังชั่นวิเคราะห์เว็บไซต์แบบฟรี ผ่าน Chrome Extension ได้ฟรี

Alexa Traffic Rank ทำงานยังไง

การจัดอันดับเว็บของ Alexa Traffic Rank ไม่ได้วัดที่จำนวน Traffic คนเข้าเว็บเพียงอย่างเดียว แต่เขาจัดลำดับเว็บ โดยวัดจาก 3 ค่าหลักๆ คือ

  1. Bounce Rate คือ อัตราส่วนของคนเข้ามาเว็ปเรา แล้วอยู่แค่หน้าเดียว แล้วปิดไป ตรงจุดนี้ยิ่งน้อย ยิ่งดี อ่านเพิ่มเติม: เทคนิคลด Bounce Rate
  2. Daily Pageviews per Visitor คือ จำนวนหน้าที่คนเข้าเว็บ แล้วเปิดดูต่อไปเรื่อย ๆ จุดนี้ยิ่งเยอะยิ่งดี แสดงว่าเว็บไซต์เรามี Content น่าสนใจ
  3. Daily Time on site คือ ค่าเฉลี่ยของเวลาที่คนอยู่บนเว็บไซต์ของเรา ยิ่งเขาอยู่บนเว็บเรานานเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ด้วยเช่นกัน

ดังนั้นเว็บที่มีค่า ranking สูง (ตัวเลขน้อย ๆ) ไม่ได้แปลว่าเว็บนั้นมีจำนวน Traffic มากอย่างเดียว แต่หมายความว่าเว็บนั้นมีความสมดุลของเว็บ (ค่า 3 เกฑณ์ด้านบนอยู่ในเกณฑ์ดี) ทำให้ Google มองว่าเว็บนั้นมีคุณภาพนั้นเอง หลายๆ กรณีเว็บที่มีจำนวนคนเข้าเว็บหลักแสน แต่ค่าคะแนน ranking อาจมีอันดับต่ำกว่าเว็บที่มี traffic หลักหมื่นก็ได้

อ่านเพิ่มเติม: วิเคราะห์เว็บไซต์คู่แข่งด้วย Traffic Rank

Mozbar (Chrome Extension)

MoZbar คือ เครื่องที่เอาไว้เช็คโครงสร้าง On page SEO ส่วนบน (Header) ของเว็บเรา เปรียบเหมือนเป็นเช็คลิสต์ ตรวจเช็คการเขียน Title, Meta Description และเช็คการเขียน H1

seo title check

เราจะเห็นการเขียน Page Title กับ Meta Description ของเว็บคู่แข่ง ดูว่าเขาเขียนไว้ดีหรือไม่ดี

Mozbar Extension เป็น SEO tool ที่เราสามารถใช้งานได้ฟรีครับ

Mozbar ใช้ตรวจเช็คอะไรได้บ้าง

  • เช็คลิสต์ On page SEO ช่วงบน
  • เช็ค Alt text
  • เช็ค Internal/external link
  • เช็ค index/noindex
  • เช็ค Canonical

อ่านเพิ่มเติม: วิธีการใช้ Mozbar Extension

อ่านเพิ่มเติม: Canonical คืออะไร สำคัญต่อการทำ SEO อย่างไรบ้าง

Yoast SEO

yoast seo

Yoast SEO คือ ปลั๊กอิน ที่ช่วยปรับแต่งด้าน Technical SEO ให้เป็นมิตรกับการค้นหาคำของ Google ตัวปลั๊กอินนี้ไม่ได้ช่วยให้เว็บเราติดหน้าแรก แต่เขาจะช่วยเราเช็คลิสต์โครงสร้างเนื้อหาหน้าเว็บของเรา โดยใช้สัญญาณไฟจราจรเป็นตัวบอกว่าโครงสร้างบทความของเราดีพอหรือยัง

ตัวอย่างหน้าตา Yoast SEO tool checklist

yoast checklist

Yoast SEO ทำอะไรได้บ้าง

  • Optimize On page SEO
  • Create Google Knowledge Graph (schema)
  • Create XML Sitemap
  • Create canonical URLs on every page
  • Fix duplicate content with Canonical
  • Fix Thin Content with Noindex
  • Redirect Function (premium version)

Yoast SEO ฟรีหรือเสียเงิน

มีทั้งแบบที่เป็นตัวฟรี และตัวเสียเงิน ผมแนะนำให้คุณเลือกใช้ Yoast SEO ที่เป็นตัวฟรีก็พอครับ

อ่านเพิ่มเติม: คู่มือสอนใช้งาน Yoast SEO แบบละเอียด

Imagify

Imagify

Imagify คือ ปลั๊กอินบีบอัดขนาดรูปภาพ ให้เล็กลง แต่ไม่ให้เสียคุณภาพความคมชัด พร้อมทั้งมีความสามารถแปลงรูปภาพทั่วไป ให้เป็นรูปภาพประเภท Webp ได้อีกด้วย

การบีบรูป

Google ให้ความสำคัญกับเว็บที่เป็น mobile friendly เป็นอย่างมาก คือต้องโหลดไว และแสดงบนมือถือได้ชัดเจน ปัญหาเว็บโหลดช้า ส่วนใหญ่นั้นเกิดจากรูปภาพที่มีขนาดใหญ่เกินไป เพราะรูปภาพที่ปรากฏบนเว็บเราไม่ได้จำเป็นต้องนำภาพนั้นออกไปปริ้น ความละเอียดของรูปเราจึงควรย่อให้เหมาะสมกับการแสดงบนเว็บไซต์ด้วย

ดังนั้นรูปภาพที่เราอัพโหลดขึ้นเว็บ จะมีขนาดกว้างxยาว เท่าไหร่ก็ได้ (ขึ้นอยู่กับที่เราออกแบบหน้าเว็บ) แต่ขนาดของไฟล์ของรูปภาพต้องอย่าให้เกิน 200 kb ซึ่งเราควรบีบไฟล์ตั้งแต่ตอนการออกแบบรูปเลย

ปลั๊กอิน Imagify ฟรีหรือเสียเงิน

ปลั๊กอินนี้ มีทั้งแบบให้ใช้ฟรี และเสียเงิน

imagify-pricing

ตัวฟรีเราจะได้สิทธิ์ย่อรูปภาพได้เดือนละ ไม่เกิน 25 MB เพื่อความสะดวกผมแนะนำให้เลือกใช้แพคเกจ One Time Plans 1GB ที่ราคา 9.99$ เราสามารถย่อรูปได้ถึง 1GB หรือประมาณ 10,000 รูปซึ่งถือว่าคุ้มมากครับ

อ่านเพิ่มเติม: คู่มือบีบอัดรูปภาพด้วย Imagify

Wp Rocket

wp-rocket

Wp Rocket คือ ปลั๊กอินที่ช่วยปรับแต่งเว็บ WordPress ของคุณให้โหลดเร็วขึ้น และมีขั้นตอนใช้งานที่ง่ายมาก โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้าน Technical เลย คุณก็สามารถปรับแต่งเว็บในจุดที่เป็นองค์ประกอบด้านเทคนิคได้ครบทั้งหมด

ความสามารถของ Wp Rocket

ปลั๊กอิน Wp Rocket 1 ตัว มีความสามารถในการปรับแต่งในจุดที่จำเป็นและสำคัญในการทำเว็บให้โหลดเร็วขึ้นได้ครบทั้งหมด

Wp-rocket-features

ภาพเล็กเกินไปมองไม่ชัด ดูความสามารถของ Wp Rocket ฉบับเต็มได้ที่: Wp Rocket  Features

หน้าที่หลักๆ ของ Wp Rocket มีดังนี้

  • ทำ Page Caching
  • Cleaning Database
  • Minification / Concatenation
  • GZIP Compression
  • Lazy Load

เครื่องมือ SEO ตัวนี้ฟรีหรือเสียเงิน

ปลั๊กอิน Wp Rocket ไม่ใช่ปลั๊กอินฟรี ถ้าคุณอยากใช้ คุณจำเป็นต้องซื้ออย่างเดียวครับ โดยราคาแพคเกจเริ่มต้นคือ 49 us และต้องเสียเงินต่ออายุทุกปีนะ

เครื่องมือทำ seo

อ่านเพิ่มเติม: ปรับความเร็วเว็บด้วย Wp Rocket

Whatsmyserp

เช็คอันดับเว็บ

Whatsmyserp คือ SEO Tool ที่เอาไว้เช็คอันดับ Keyword ว่าอยู่อันดับที่เท่าไหร่บน Google

Whatsmyserp ใช้งานได้ฟรี หรือไม่

เราสามารถใช้งานเครื่องมือ SEO นี้ได้ฟรีครับ

ความสามารถของ Whatsmyserp

seo tools

เช็คอันดับเว็บได้ครั้งละ 10 keyword เช็คอันดับเว็บแยกตามอปกรณ์ ระหว่าง desktop กับ mobile ได้อีกด้วย

การจะทำ SEO ให้ได้ผล เราต้องรู้ก่อนว่าตอนนี้เว็บเรากับ Google มีสถานะเป็นอย่างไรบ้าง การเช็คอันดับเว็บ ตัวเองจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการวางแผนทำ SEO ให้ได้ผลนั้นเอง

Google page speed insight

การทำ SEO คือ การทำเว็บให้ดีกว่าเว็บคู่แข่ง เว็บเขาสวยแค่ไหน เราต้องสวยกว่า เว็บเขาคอนเทนต์ดีแค่ไหน เราต้องดีกว่า เช่นเดียวกัน เว็บคู่แข่งเปิดเร็วแค่ไหน เราต้องเปิดเร็วกว่า เครื่องมือเช็คความเร็วมีมากมาย แต่ผมแนะนำให้คุณเช็คความเร็วผ่าน Google page speed insight

การเช็คความเร็วเว็บ เราต้องดูใน 2 ส่วน คือ

  1. ดูจากความรู้สึกจากการเปิดเว็บไซต์จริงบนมือถือ อย่าให้เกิน 3 วินาที ถ้าทำได้ถือว่าเว็บของคุณผ่านเกณฑ์ SEO ด้านความเร็วแล้ว
  2. ดูจากคะแนนะ Google page speed score เราไม่จำเป็นต้องให้ได้คะแนน page speed เต็ม 100 คะแนน แค่อย่าให้ต่ำกว่า 50 คะแนนก็เพียงพอแล้ว

เพราะคะแนน page speed เยอะ ไม่ได้การันตีว่าตอนเปิดเว็บจริงจะเปิดเร็ว ซึ่ง Google ให้ความสำคัญเรื่องความเร็วจากการใช้งานของผู้ใช้ เมื่อเปิดเว็บจริงๆ เป็นหลัก

อ่านเพิ่มเติม: วิธีการทำเว็บให้โหลดเร็ว 100/100

Google Search console

Google Search Console คือ บริการฟรีจาก Google สำหรับการตรวจสอบการจัดทำดัชนี คำค้นหาต่างๆ บนเว็บไซต์ ช่วยให้เราเข้าใจวิธีการที่ Google ดูเว็บไซต์ของเรา เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับปรุงเว็บให้เหมาะสมกับผลการค้นหาต่อไป

การติดตั้ง Google Search Console

  • การติดตั้ง Google Search Console ผ่าน Google analytic
  • การติดตั้ง Google Search Console ผ่านปลั๊กอิน Yoast
  • การติดตั้ง Google Search Console ผ่านแท็ก HTML วางที่ Header

ดูวิธีการติดตั้ง Google Search Console บนเว็บของคุณที่บทความนี้ >> คลิกอ่าน <<

ตัวอย่างการวัดผลที่เราจะได้จาก Google Search Console เช่น

  • ข้อความค้นหาที่เว็บของเราถูกค้นเจอ (Queries) และจำนวนถูกคลิกเข้าสู่เว็บไซต์
  • Keyword ไหนที่มีคนคลิกเข้าสู่เว็บเรามากที่สุด
  • ค่าเฉลี่ยของการแสดงผล กับจำนวนคลิก (CTR)
  • อันดับของคำ Keyword ที่ปรากฏอยู่ในหน้าผลการค้นหา
  • เว็บเรามีหน้าดี หน้าเสีย อย่างไร เป็นต้น

ซึ่งสถิติที่เราได้จาก Google Search Console จะเป็นตัวช่วยให้เราเข้าใจวิธีการที่ Google ดูเว็บไซต์ของเรา และเอาข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงเว็บ เพื่อเพิ่มโอกาสให้เว็บของเราติดหน้าแรกได้ง่ายขึ้นนั้นเอง

google search console

สรุป SEO Tool (2024)

โปรแกรม SEO ส่วนใหญ่นั้นราคาสูง ซึ่งหลายๆ คนซื้อมาใช้แต่ใช้ไม่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป คุณสามารถเลือกใช้เครื่องมือ SEO ตามที่ผมแนะนำไว้ ก็เพียงพอแล้ว แต่สิ่งที่คุณต้องทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ว่าการทำ SEO นั้นไม่มีทางลัด เครื่องมือต่างๆ เป็นเพียงสิ่งอำนวยความสะดวกให้เราปรับแต่ง SEO บนเว็บให้ง่ายขึ้นเท่านั้น

การทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จ คอนเทนต์เนื้อหาบนเว็บของคุณต้องทำมาดี และเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าหรือคนเข้าชมเว็บของคุณด้วยนั้นเอง ถ้าทำคอนเทนต์ไม่ดี ใช้เครื่องมือแพงแค่ไหน ก็ไม่มีประโยชน์ครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *