ความยากของการ ติดตั้ง Theme WordPress ก็คือ ในแต่ละธีมจะมีวิธีการ setup ธีม ที่ไม่เหมือนกันเลย จึงทำให้หลายคนยังไม่กล้าซื้อธีม เพราะกลัวว่าจะเซ็ทอัพธีมที่ซื้อมาไม่ได้
อยากทำเว็บให้มี layout สวยๆ เราต้องซื้อธีมครับ เพราะของฟรีและดีไม่ค่อยไม่มีในโลก แม้ว่าในรายละเอียดของแต่ละธีมจะไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ทุกธีมมีเหมือนๆ กัน คือ การติดตั้ง Theme WordPress และการลงเดโม
แหล่งซื้อธีมอันดับ 1 ของโลกต้องยกให้ที่นี่ครับ ThemeForest.net โดยในบทความนี้ผมจะรวบรวมวิธีติดตั้ง Theme WordPress โดยเลือกมาเฉพาะธีมที่เป็นตัว Bestseller 10 อันดับแรก เหตุผลที่เราควรใช้ธีมที่ขายดี เพราะว่าธีมเหล่านี้เขาจะมีคลิปสอนการใช้งานบน youtube เยอะนั้นเอง และติดขัดตรงไหนเราจะ search หาคำตอบบน google ได้ง่ายอีกด้วย เหมาะสำหรับมือใหม่โดยเฉพาะเลยครับ
รวมวิธี ติดตั้ง Theme WordPress : 2017’s Best Selling Themes
1. Avada | Responsive Multi-Purpose Theme
สำหรับขั้นตอนการติดตั้ง Avada Theme และลงเดโม มีดังนี้ครับ
1. ซื้อธีมและดาวน์โหลดธีม ที่นี่ Avada Theme
2. อัพโหลดธีมขึ้นสู่เว็บของเรา
3. ติดตั้ง Child Theme และ Activate ที่ Child Theme
4. สร้างรหัส token มาใส่ที่ธีม หากเราไม่ใส่เราจะไม่สามารถลงเดโมได้
5. ติดตั้งปลั๊กอินที่จำเป็นสำหรับธีมนี้ให้ครบ
ทำไมต้องติดตั้ง Child Theme ด้วย ลองอ่านดูจากบทความนี้ได้ครับ Child Theme คืออะไร?
มีแค่เว็บที่มีคุณภาพดีเท่านั้น ถึงจะมีโอกาสติดหน้าแรก Google ได้ ไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้เอง ผมขอแนะนำให้มาเรียนครับ ดูรายละเอียด และค่าเรียนได้ที่นี่
2. BeTheme – Responsive Multi-Purpose WordPress Theme
สำหรับขั้นตอนการติดตั้ง Be Theme และลงเดโม มีดังนี้ครับ
1. ซื้อธีมและดาวน์โหลดธีม ที่นี่ Be Theme
2. อัพโหลดธีมขึ้นสู่เว็บของเรา
3. ติดตั้ง Child Theme และ Activate ที่ Child Theme
4. ติดตั้งปลั๊กอินที่จำเป็นสำหรับธีมนี้ให้ครบ
5. ลงเดโมที่เราต้องการ
6. Import Revolution Slider
7. ลบ widget ที่ไม่จำเป็นออกจาก footer
3. Flatsome | Multi-Purpose Responsive WooCommerce Theme
สำหรับขั้นตอนการติดตั้ง Flatsome Theme และลงเดโม มีดังนี้ครับ
1. ซื้อธีมและดาวน์โหลดธีม ที่นี่ Flatsome Theme
2. อัพโหลดธีมขึ้นสู่เว็บของเรา
3. ทำตาม Wizard ช่วย setup ธีม
4. ลงเดโมที่เราต้องการ
4. Newspaper
สำหรับขั้นตอนการติดตั้ง Newspaper Theme และลงเดโม มีดังนี้ครับ
1. ซื้อธีมและดาวน์โหลดธีม ที่นี่ Newspaper Theme
2. อัพโหลดธีมขึ้นสู่เว็บของเรา
3. ติดตั้งปลั๊กอินที่จำเป็นให้ครบ
4. ลงเดโมที่เราต้องการ
5. Enfold – Responsive Multi-Purpose Theme
สำหรับขั้นตอนการติดตั้ง Enfold Theme และลงเดโม มีดังนี้ครับ
1. ซื้อธีมและดาวน์โหลดธีม ที่นี่ Enfold Theme
2. อัพโหลดธีมขึ้นเว็บของเรา
3. ติดตั้งปลั๊กอินที่จำเป็น
4. ลงเดโมที่เราต้องการ
6. X | The Theme
สำหรับขั้นตอนการติดตั้ง X The Theme และลงเดโม มีดังนี้ครับ
1. ซื้อธีมและดาวน์โหลดธีม ที่นี่ X The Theme
2. อัพโหลดธีมขึ้นสู่เว็บของเรา
3. Verify purchase code
4. ติดตั้งปลั๊กอินที่จำเป็น
5. ลงเดโมที่เราต้องการ
7. The7 — Responsive Multi-Purpose WordPress Theme
สำหรับขั้นตอนการติดตั้ง The7 Theme และลงเดโม มีดังนี้ครับ
1. ซื้อธีมและดาวน์โหลดธีม ที่นี่ The7 Theme
2. อัพโหลดธีมขึ้นสู่เว็บของเรา
3. ติดตั้งปลั๊กอินที่จำเป็น
4. ลงเดโมที่เราต้องการ
8. Jupiter – Multi-Purpose Responsive Theme
สำหรับขั้นตอนการติดตั้ง Jupiter Theme และลงเดโม มีดังนี้ครับ
1. ซื้อธีมและดาวน์โหลดธีม ที่นี่ Jupiter Theme
2. อัพโหลดธีมขึ้นสู่เว็บของเรา
3. ติดตั้งปลั๊กอินที่จำเป็นให้ครบ
4. ลงทะเบียนธีม
5. ลงเดโมที่เราต้องการ
6. ลง Layer Slider
7. สร้างเมนู
9. Bridge – Creative Multi-Purpose WordPress Theme
สำหรับขั้นตอนการติดตั้ง Bridge Theme และลงเดโม มีดังนี้ครับ
1. ซื้อธีมและดาวน์โหลดธีม ที่นี่ Bridge Theme
2. อัพโหลดธีมขึ้นสู่เว็บของเรา
3. ติดตั้งปลั๊กอินที่จำเป็นให้ครบ
4. ลงเดโมที่ต้องการ
5. สร้างเมนู
10. Salient – Responsive Multi-Purpose Theme
สำหรับขั้นตอนการติดตั้ง Salient Theme และลงเดโม มีดังนี้ครับ
1. ซื้อธีมและดาวน์โหลดธีม ที่นี่ Salient Theme
2. อัพโหลดธีมขึ้นสู่เว็บของเรา
3. ติดตั้ง child theme และ activate ที่ child theme
4. ติดตั้งปลั๊กอินที่จำเป็นให้ครบ
5. ตั้งค่าปักหมุดหน้าแรก static front page
6. สร้างเมนู
======
ติดตามอ่านสาระน่ารู้ การทำเว็บไซต์สำหรับมือใหม่ ด้วย WordPress พร้อมกับให้ความรู้เรื่องการตลาดออนไลน์ และการปรับแต่ง SEO ให้ติดอันดับ google ได้ที่ padveewebschool.com