Refresh

This website padveewebschool.com/hcu-update-google/ is currently offline. Cloudflare's Always Online™ shows a snapshot of this web page from the Internet Archive's Wayback Machine. To check for the live version, click Refresh.

Helpful Content ในแบบที่ Google ต้องการมีลักษณะอย่างไร

Google helpful Content

Google มีการอัพเดทอัลกอริทึมครั้งใหญ่ โดยปล่อยออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน อยู่ 2 ตัว คือ helpful Content update กับ spam update โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาการแสดงผลในหน้าผลการค้นหา (SERP) ให้แสดงผลลัพธ์ ที่ตรงกับสิ่งที่คนต้องการมากที่สุด

ซึ่งอาจทำให้หลายๆ เว็บไซต์อันดับตก หรือหน้าเว็บหายไปจาก Google เลยก็มี ดังนั้น หากคุณจะกู้คืนอันดับเว็บ หรือ Traffic ให้กลับมาได้ คุณต้องทำความเข้าใจก่อน ว่า helpful Content (เนื้อหาที่มีประโยชน์) ในแบบที่ Google ต้องการมีลักษณะอย่างไร

 

Helpful Content คืออะไร

Helpful Content หรือ เนื้อหาที่เป็นประโยชน์ คือ เนื้อหาที่เขียนขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการและความสนใจของผู้ใช้อย่างแท้จริง เนื้อหาดังกล่าวควรให้ข้อมูล ความรู้ หรือความบันเทิงแก่ผู้อ่านอย่างครบถ้วนและถูกต้อง

การสร้างเนื้อหาที่เป็น Helpful Content มีประโยชน์หลายประการ เช่น ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจประเด็นต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้ผู้อ่านตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด และช่วยให้ผู้อ่านได้รับความรู้หรือความบันเทิง

ลักษณะของ Helpful Content

เนื้อหาที่เป็นประโยชน์ เป็นประโยคที่มีลักษณะเป็นนามธรรม เพราะมุมมองหรือความเป็นประโยชน์ หรือสิ่งทีดี แต่ละคนก็ไม่ตรงกันอีก ซึ่ง Google ได้วางหลักการกว้างๆ สำหรับการทำ Helpful Content ไว้ดังนี้

  • ความเกี่ยวข้อง: เนื้อหาควรเกี่ยวข้องกับหัวข้อที่ผู้ใช้กำลังค้นหา
  • ความถูกต้อง: เนื้อหาควรมีความถูกต้องตามข้อเท็จจริงและข้อมูลอ้างอิง
  • ความลึกซึ้ง: เนื้อหาควรให้ข้อมูลเชิงลึกหรือการวิเคราะห์ที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน
  • ความน่าเชื่อถือ: เนื้อหาควรมาจากแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้
  • ความสร้างสรรค์: เนื้อหาควรมีความน่าสนใจและดึงดูดผู้อ่าน

นอกจากนี้ เนื้อหาที่เป็นประโยชน์ควรเขียนขึ้นเพื่อให้เข้าใจง่ายและสามารถนำไปใช้ได้จริง ผู้เขียนควรสื่อสารกับผู้ใช้อย่างตรงไปตรงมาและชัดเจน โดยหลีกเลี่ยงการใช้คำศัพท์หรือศัพท์เทคนิคที่เข้าใจยาก

ตัวอย่างของเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ ได้แก่

  • บทความข่าวที่รายงานเหตุการณ์ปัจจุบันอย่างครบถ้วนและถูกต้อง
  • บทความแนะนำผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด
  • บทความสอนหรือคู่มือการใช้งานที่ช่วยให้ผู้ใช้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
  • บทความวิเคราะห์หรือความคิดเห็นที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจประเด็นต่างๆ อย่างลึกซึ้ง
  • บทความบันเทิงที่มอบความเพลิดเพลินและผ่อนคลายให้แก่ผู้อ่าน

อะไรคือเนื้อหาที่ไม่มีประโยชน์ (Unhelpful Content)

Danny Sullivan ซึ่งเป็น Search Liaison ของ Google ได้ให้ตัวอย่างของประเภทเนื้อหาที่ไม่มีประโยชน์ พร้อมกับตัวอย่างของกลยุทธ์ที่นักเขียนอาจใช้ในการเขียนเนื้อหาที่ไม่มีประโยชน์ สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ เนื้อหาที่ไม่มีประโยชน์ในสายตาของ Google คือเนื้อหาที่เขียนขึ้นเพื่อให้ติดอันดับการค้นหาที่ดีเท่านั้น โดยไม่ได้คำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้จริง

Sullivan ได้กล่าวว่า “เนื้อหาที่ไม่มีประโยชน์คือเนื้อหาที่เขียนขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพียงอย่างเดียวเพื่อให้ติดอันดับในเครื่องมือค้นหา ไม่ใช่เพื่อให้มนุษย์อ่าน”

เขาได้ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเขียนบทความที่มีชื่อว่า ‘20 กิจกรรมสนุกๆที่ทำได้ในวันนี้’ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ติดอันดับการค้นหาสำหรับคีย์เวิร์ด ‘กิจกรรมสนุกๆ’ มากกว่าที่จะเขียนเกี่ยวกับหัวข้อที่คุณมักจะเขียนถึงอยู่เสมอ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าคุณกำลังสร้างเนื้อหาที่ไม่มีประโยชน์ เนื้อหาไม่ได้ถูกเขียนขึ้นเพื่อประโยชน์ของคุณหรือผู้ชมของคุณ แต่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ติดอันดับการค้นหาสูงๆ ซึ่งมักจะเป็นลักษณะเฉพาะของเนื้อหาที่ไม่มีประโยชน์”

ที่มา:  Google Provides Signs That You’re Writing Unhelpful Content

ผมขออธิบายเพิ่มเติมให้พวกเราเข้าใจอีกรอบ เช่น สมมุติ เรื่องที่ผมชอบเขียนบนเว็บคือ เรื่องที่ผมเชี่ยวชาญได้แก่ เรื่องการการทำเว็บ กับเรื่องความรู้ SEO แต่เว็บผม traffic ไม่เยอะ เพราะคำในวงการของผม Search volume ไม่ได้เยอะอะไร

คราวนี้ผมอยากเพิ่ม Traffic ให้คนเข้าเว็บเยอะๆ ผมเลยไปหาคำที่มี search volume เยอะๆ อาจจะเป็นคำในวงการอื่น เช่น ผมเห็นว่า วงการท่องเที่ยว เป็นคำที่มี search volume เยอะ ผมเลยเลือกหยิบคำนี้มาทำเป็นบทความบ้าง เช่น คำว่า “ที่เที่ยวเขาใหญ่” แล้วผมก็เริ่มบรรเลงเขียนเนื้อหา โดยใช้ความรู้ SEO ที่มีเขียนเรื่อง “ที่เที่ยวเขาใหญ่” โดยผมก็จะโฟกัสแต่เพียงว่า จะเขียนอย่างไร ให้มันถูกหลัก SEO แต่ตัวผมเองก็ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นจริงๆ เพราะผมไม่ใช่คนในวงการท่องเที่ยว และก็ไม่ได้มีประสบการณ์ตรง ในการเที่ยวเขาใหญ่

ซึ่งแน่นอนผมสามารถเขียนบทความนี้สำเร็จ แต่สุดท้ายบทความนี้ มันจะขาดความลึกซึ่ง เพราะผมมุ่งแต่จะเขียนเพื่อ SEO เป็นสำคัญ

เมื่อบทความไม่ได้เขียนจากผู้เชียวชาญ มันย่อมขาดความเป็นธรรชาติ หรือไม่ได้มีมุมมองอะไรใหม่ๆ ปรากฏอยู่บนเนื้อหา รวมถึงผมอาจจะไม่ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการรู้กับเกี่ยวกับเรื่อง ที่เที่ยวเขาใหญ่จริงๆ เลยก็ได้

บทความที่ผมเขียนมันจึงเป็นเนื้อหาที่ไม่เป็นประโยชน์ (Unhelpful Content) เพราผมเขียนเพื่อมุ่งเป้าไปแต่งเรื่องการทำอันดับ SEO อย่างเดียว

นอกจากนี้ Sullivan ยังกล่าวอีกว่า การใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การพึ่งพาเครื่องมือในการช่วยเหลือกระบวนการสร้างเนื้อหาของคุณ อาจทำให้ Google มองว่าเนื้อหาของคุณไม่มีประโยชน์ เช่น

  • การใช้ AI ผลิตเนื้อหาอย่างเดียว
  • การทำเนื้อหาอัตโนมัติ
  • การยึดติดคะแนนจากโปรแกรมเช็คเนื้อหาต่างๆ

ซึ่งเขามองว่าการทำแบบนี้มันมองดูง่ายเกินไป อะไรที่สามารถทำได้แบบง่ายๆ มักจะไม่ใช่เนื้อหาที่เป็นประโยชน์ เพราะเมื่อคุณไปโฟกัสที่ตัวเลขคะแนน จากโปรแกรมช่วยทำ SEO ต่างๆ คุณจะละเลยเรื่องของคุณภาพไปนั้นเอง

สรุป

หากคุณต้องการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ ให้เน้นที่การเขียนเนื้อหาที่ให้ข้อมูล ความรู้ หรือความบันเทิงแก่ผู้อ่านอย่างแท้จริง อย่าพยายามเขียนเนื้อหาเพื่อให้ติดอันดับการค้นหาสูงๆ เท่านั้น และหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องมือสร้างเนื้อหาแบบอัตโนมัติโดยไม่ผ่านการตรวจสอบและแก้ไขอย่างรอบคอบ

เนื้อหาของเรามีโอกาสเป็น Helpful Content ในสายตา Google  ให้ยึดถือหลักการดังต่อไปนี้

  • คิดถึงผู้ใช้เป็นหลัก: เขียนเนื้อหาเพื่อให้ตอบสนองความต้องการและความสนใจของผู้ใช้อย่างแท้จริง
  • ให้ความถูกต้องและน่าเชื่อถือ: ตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียดถี่ถ้วนและอ้างอิงแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้
  • สื่อสารอย่างตรงไปตรงมาและเข้าใจง่าย: ใช้ภาษาที่กระชับ ชัดเจน และเข้าใจง่าย
  • สร้างสรรค์และน่าสนใจ: นำเสนอเนื้อหาในรูปแบบที่ดึงดูดผู้อ่าน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *