SEO
Ubersuggest โปรแกรมหา keyword ใช้งานง่าย ทดลองใช้ฟรีก่อนได้
การทำ SEO ให้ได้ผล เราต้องรู้ก่อนว่าลูกค้าของเราคือใคร เขาอยากรู้อะไรบ้าง โปรแกรมหา Keyword คือเครื่องมือวิเคราะห์คำค้นหา ที่คนอยากรู้ หรือคำที่สะท้อนปัญหาต่างๆ หรือความต้องการของคนๆ นั้น แล้วนำไปค้นหาคำตอบบน Google
การรู้ว่าลูกค้าจริงๆ ของเราอยากรู้อะไร ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาในการสร้างคอนเทนต์ที่ไม่มีคนอยากรู้ หรือไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ใดๆ นั้นเอง
เพราะเป้าหมายของการทำ SEO แท้จริงแล้วไม่ใช่แค่การทำเว็บให้ติดอันดับหน้าแรก Google แต่มันคือการเพิ่มยอดขาย เพิ่มลูกค้าให้กับธุรกิจของเราต่างหาก
สารบัญเนื้อหา
- Ubersuggest คืออะไร
- Ubersuggest ฟรีหรือเสียเงิน
- วิธีการใช้งาน Ubersuggest
- ฟังชั่นพิเศษเพิ่มเติม
- เปรียบเทียบผลลัพธ์กับเครืองมือ SEO ตัวอื่นๆ
แนะนำโปรแกรม Ubersuggest
Ubersuggest คือ เว็บที่ไว้ใช้สำหรับวิเคราะห์คำ Keyword ต่างๆ เพื่อให้เรานำมาใช้เป็นแนวคิวในการผลิตคอนเทนต์ และนำข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับมาวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ เครื่องมือนี้สร้างโดย Neil Patel กูรู SEO ระดับโลก
จุดเด่นของ Ubersuggest
- ใช้งานได้ฟรี
- ดูคีย์เวิร์ดที่มีคนค้นหาเยอะๆ
- วิเคราะห์ traffic คนเข้าเว็บ
- หา Keyword จากเว็บคู่แข่ง
- เช็ค traffic ที่ละหน้าได้
- ตรวจสอบ backlink
Ubersuggest ฟรีหรือเสียเงิน
เราสามารถใช้งาน Ubersuggest แบบฟรีได้ แต่เวอร์ชั่นฟรีจะมีข้อจำกัด ไม่สามารใช้งานได้ครบทุกฟังชั่น และจำกัดระยะเวลาใช้งานต่อวันได้แค่วันละ 5 ครั้ง และเขาให้เราทดลองใช้ฟรีได้ 7 วันครับ แต่ผมแนะนำว่าหากคุณต้องการทำ SEO แบบจริงจัง ควรลงทุนซื้อเครื่องมือตัวนี้ครับ เพราะราคาไม่แพงเกินไป เมื่อเทียบกับเครื่องมือ SEO ตัวอื่นๆ
แพคเกจราคาของ Ubersuggest
การซื้อ Ubersuggest ผมแนะนำให้คุณซื้อแพคเกจแบบ Lifetime แล้วเลือกแพคเกจ Individual ที่ราคา 120$ ก็เพียงพอแล้ว
จุดเด่นด้านราคาของเครื่องมือตัวนี้ก็คือ เราจ่ายเงินซื้อแค่ครั้งเดียว แต่สามารถใช้งานได้ตลอด ไม่มีหมดอายุ ไม่ต้องเสียค่าต่ออายุรายปีครับ
วิธีการใช้งานโปรแกรม Ubersuggest เพื่อหา Keyword
การทำงานของ Ubersuggest จะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ
1. การวิเคราะห์ Keyword
เช็คจำนวนการค้นหา (Search volume)
ไปที่หน้าเว็บ Ubersuggest > คลิก https://neilpatel.com/ubersuggest/
ใส่คำค้นหาที่เราอยากรู้ลงไป เลือกประเทศ จากนั้นคลิก search ได้เลย
Keyword Overview: คือ ภาพรวมผลการค้นหาทั้งหมดของคำนี้ด้านต่างๆ
Search Volume: คือ ส่วนที่แสดงจำนวนการค้นหาของคำ keyword นั้นใน 1 เดือน แต่มันเป็นค่าเฉลี่ยของ 6 เดือนล่าสุด
SEO Difficulty: คือ ความยากง่ายในการทำ SEO สำหรับคำนี้ ยิ่งตัวเลขมากแปลว่าการแข่งขันสูง ถ้าตัวเลขน้อยแปลว่าการแข่งขันต่ำ แต่เป็นการวัดด้วยเกณฑ์คำนวนจาก Uber เขาเอง ไม่ใช่ตัวบ่งชี้ความยากหรือง่ายโดยตรงจาก Google
Paid Difficulty: คือ การแสดงถึงความยากง่ายในการลงโฆษณาผ่าน Google Ads
Cost per Click (CPC): คือ อัตราค่าเฉลี่ยราคาต่อคลิก สำหรับการลงโฆษณา
Keyword Ideas: คือ การแนะนำ Niche Keyword ที่ลักษณะเฉพาะเจาะจง มีปริมาณค้นหาไม่สูงมากเมื่อเทียบกับ Mass Keyword หากเว็บเรามีอันดับติดหน้าแรกที่คำ Niche Keyword โอกาสขายของได้มีสูงทีเดียว บางคนก็เรียกคำเหล่านี้ว่า Longtail Keyword ก็ได้
Related Keyword: คือ คำค้นหาที่น่าสนใจ หรือเกี่ยวข้องกับ Keyword หลัก ซึ่งเราสามารถนำคำเหล่านี้มาเขียนบทความสำหรับการ SEO ได้อีกด้วย
Search results: คือ การแสดงผลรายชื่อเว็บที่ติดอันดับบนหน้าค้นหาของ Google ว่ามีเว็บไหนบ้าง แต่ละเว็บได้ Traffic คนคลิกเข้าเว็บผ่าน keyword นั้นเท่าไหร่
EST Visits: คือ จำนวนคนคลิกเข้าเว็บของหน้านั้นต่อ 1 เดือน
Links: คือ จำนวนของ Backlink ของหน้าเว็บที่ติดอันดับเหล่านั้น
Domain Authority: คือ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความแข็งแกร่งของโดเมน หรือของการจัดอันดับโดเมน การวัดค่าระดับคะแนนจะให้จาก 0-100 ยิ่งเว็บไซต์มีคะแนนสูงเท่าใดก็ยิ่งแข็งแกร่งและมีเชื่อถือเท่านั้น
Social shares: คือ การมีส่วนร่วมของหน้าเว็บนั้นบน social media ต่างๆ เช่น มีการคลิกถูกใจ หรือแชร์ต่อ บน Facebook เป็นต้น
2. การวิเคราะห์โดเมน
การวิเคราะห์โดเมน คือ การค้นหา Keyword จากเว็บคู่แข่ง หรือเว็บที่มีบทความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณขายหรือเว็บที่คุณสนใจ เพื่อที่ว่าเราจะได้เอาคำ Keyword เหล่านั้น มาทำคอนเทนต์บนเว็บของเราบ้าง เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหา Keyword เอง และยังช่วยแก้ปัญหา ของการไม่รู้จะเขียนบทความเรื่องอะไรดีอีกด้วย
ผมแนะนำให้คุณลองเอาเว็บคู่แข่ง หรือเว็บที่มีบทความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณขาย หรือเว็บที่คุณสนใจ
เช่น หากคุณทำเว็บขายสินค้าสุขภาพ คุณอาจมองหา keyword จากเว็บเหล่านี้
health.kapook.com/ , honestdocs.co
สายของตกแต่งบ้าน เข้าไปส่อง Keyword จากเว็บเหล่านี้นะ
infinitydesign.in.th , home.kapook.com , homify.co.th
สายความสวยความงาม
sistacafe.com , jeban.com
สายอาหาร
cookpad.com , topspicks.tops.co.th
สายไอที
it24hrs.com , beartai.com
ด้านบนเป็นแค่โดเมนตัวอย่างที่ผมนึกออกนะ จากนั้นให้เราเอาชื่อเว็บเหล่านั้นมาส่องหา keyword
จากเว็บนี้ได้เลยครับ https://neilpatel.com/ubersuggest/ (แต่ก่อนจะคลิกค้นหา ให้เลือกประเทศเป็นไทยก่อนนะ)
คุณจะเจอผลลัพธ์ที่น่าสนใจมากมายเลย
หัวข้อ Domain Overview ผลลัพธ์ที่แสดงผลมีดังนี้
Organic Keywords: คำ Keyword ทั้งหมดบนเว็บของเรา ที่มีคนค้นหาและพบเจอเว็บของเรา
Organic Monthly Traffic: จำนวนเฉลี่ยของคนที่เข้าเว็บเราใน 1 เดือน ผ่านการค้นหาแบบปกติ ซี่งไม่รวมการค้นหาจากการลงโฆษณานะ
(ปล. ค่าผลลัพธ์นี้อาจยังไม่ถูกต้อง 100% ผมลองไปเอาเปรียบเทียบกับจำนวน traffic ที่แสดงบน Google search console มันจะได้น้อยกว่าเกือบ 3 เท่า หมายความว่า สถิติคนเข้าเว็บที่แสดงบน Ubersuggest ได้เท่าไหร่ ให้คุณคูนด้วย 3 เข้าไปครับ มันถึงจะเป็นสถิติที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง)
หัวข้อ Top Traffic Pages ผลลัพธ์ที่แสดงผลมีดังนี้
Top Traffic Pages: หน้าเว็บที่มีจำนวนคนเข้ามาดูมากที่สุดเรียงจากมากที่สุดไปหาน้อยที่สุด
EST. Monthly visits: จำนวน Traffic คนเข้าเว็บของหน้านั้นๆ ต่อ 1 เดือน
Backlinks: จะนวนของลิงค์จากเว็บอื่นๆ ที่ชี้กลับมาที่เว็บไซต์ของเรา
**แนะนำให้อ่าน: Backlink คืออะไร ส่งผลดีต่อการทำ SEO อย่างไรบ้าง?
นอกจากนี้ผมแนะนำให้คุณคลิกที่ตรงคำว่า View All ของแต่ละ Top Page
เราจะเจอข้อมูล Keyword ที่เป็นคำที่เกี่ยวข้อง และบางครั้งเราก็จะเจอ LSI Keyword (คีย์เวิร์ดมีความหมายใกล้เคียง) คำแนะนำของคือ ให้เรานำ Keyword เหล่านั้นไปใส่ประกอบการเขียนบทความของเราด้วยนั้นเอง ซึ่งจะเป็นตัวช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บเรามี Organic Keywords เพิ่มขึ้นด้วยนั้นเอง
หัวข้อ Top Keyword ผลลัพธ์ที่แสดงผลมีดังนี้
ผมมองว่าสิ่งนี้คือ จุดเด่นของโปรแกรมหา Keyword ของ Ubersuggest เลยก็ว่าได้ เพราะเราไม่ต้องไปเสียเวลาทำ Keyword research ให้ยุ่งยาก เหมาะสำหรับคนที่หมดมุก ไม่รู้จะเขียนบทความเรื่องอะไรต่อดี เพียงแค่เราเอาเว็บคู่แข่ง โยนเข้าไปที่ Ubersuggest เราจะได้ทั้ง ideas keyword พร้อมทั้งจำนวนค้นหา (Search Volume) มาพร้อมใช้งาน เราก็เก็บ keyword เหล่านั้นมาทำคอนเทนต์บนเว็บไซต์ของเราได้เลยนั้นเอง
3. ตรวจสอบ Backlink (New feature)
Backlink คือ ลิงค์จากเว็บอื่นๆ ที่ชี้กลับมาที่เว็บไซต์ของเรา เป็นสิ่งที่บอก Google ให้รู้ว่าเนื้อหาของเว็บไซต์เราได้รับการยอมรับ และมีการทำเป็น reference เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับหน้าเว็บของเรา ส่งผลให้เราได้คะแนน SEO จาก Google มากขึ้นไปด้วย
Source: คือเว็บต้นทางที่ทำลิงค์ส่งกลับมายังเว็บไซต์ของเรา
Target: หน้าเว็บไซต์ของเราที่เขาทำ backlink ส่งกลับมาให้
Google ลดความสำคัญของ Backlink เพราะจำนวนของ Backlink ไม่ได้เป็นตัวบอกว่าเนื้อหาบนเว็บมีคุณภาพดีเสมอไป แต่ Backlink ก็ยังมีความจำเป็นอยู่ แต่ต้องเป็นลิงค์ที่เราได้รับจากเว็บ ที่มีคุณภาพ และมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ ของเรา และต้องมีความเป็นธรรมชาติด้วยนั้นเอง
เรียนรู้เพิ่มเติม: วิธีทำ Backlinks ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
สรุป: คู่มือใช้งาน Ubersuggest
สำหรับผม Ubersuggest โปรแกรมหา Keyword ฟรีที่ดีที่สุด เพราะเขามีฟังชั่นที่จำเป็นสำหรับคนทำงานสาย Content SEO โดยเฉพาะ ช่วยให้เรามีไอเดียการเขียนบทความได้ไม่รู้จบ และได้คำตอบในแง่ของการเขียนสิ่งที่คนอยากรู้อีกด้วย แถมยังแอบขโมยไอเดีย keyword จากเว็บคู่แข่งเราได้อีกด้วย ช่วยให้เราประหยัดเวลาในการทำ Keyword research ด้วยนั้นเอง
**เว็บที่นำมาวิเคราะห์สำหรับการหา Keyword เป็นตัวอย่างคือเว็บนี้ครับ honestdocs.co
ชื่นชมมากคะ บทความดีมากๆคะ